ตลอดทั้งปี ผู้คนแสวงหาการบรรเทาอาการภูมิแพ้ตามฤดูกาล ซึ่งมักเกิดจากละอองเกสร Ragweed เชื้อราและ/หรือไรฝุ่น น่าเสียดายที่สารก่อภูมิแพ้ไม่ได้เข้าสู่จำศีลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล แต่เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยโรคภูมิแพ้ได้ โดยการป้องกันการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

ฤดูใบไม้ผลิมีความสวยงาม ช่วงเวลาของปีที่มีดอกไม้บานและภูมิทัศน์สีเขียว แต่ก็เป็นช่วงเวลาสําคัญของปีสําหรับโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล เมื่อพืชปล่อยละอองเกสรดอกไม้ออกมา ผู้คนหลายล้านคนที่มีไข้ละอองฟางเริ่มดมกลิ่นและจาม เมื่อต้นไม้ หญ้า และวัชพืชปล่อยเมล็ดพืชเล็กๆ เหล่านี้ออกสู่อากาศเพื่อปฏิสนธิพืชต้นอื่น ละอองเกสรสามารถเดินทางได้หลายร้อยไมล์ ดังนั้นจึงไม่ใช่พืชที่เหมือนเป็นเพื่อนบ้านอย่างที่คุณรู้สึก จํานวนนับละอองเกสรจะสูงขึ้นในวันที่มีลมพัด ในทางกลับกันวันที่ฝนตก ล้างสารก่อภูมิแพ้ทิ้งไป

เมื่อเมล็ดเกสรถูกหายใจเข้าไปโดยคนที่แพ้ ร่างกายจะส่งการป้องกันมาสู้กับลวดมัดฟาง ระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดว่าละอองเกสรเป็นอันตราย และปล่อยแอนติบอดีที่โจมตีสารก่อภูมิแพ้ออกมา ทำให้เกิดการปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าฮีสตามีนเข้าไปในเลือด ฮิสตามีนทําให้เกิดอาการน้ำมูกไหล คันตา และอาการอื่นๆ ที่ทุกคนที่มีอาการแพ้นั้นคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง

แม้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูหลักของฤดูแห่งละอองเกสรดอกไม้  แต่สําหรับผู้ที่มีอาการแพ้ ragweed ภูมิแพ้แห่งฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเริ่มต้นในปลายเดือนกันยายนอาจเป็นการทำให้หายใจไม่ออก Ragweed เป็นดอกไม้ที่สามารถทำให้เกิดอาการเยื่อจมูกอักเสบ ซึ่งยังรู้จักกันในชื่อโรคไข้ฟาง อาการภูมิแพ้ Ragweed ส่งผลกระทบต่อผู้คนประมาณ 23 ล้านคนแค่เพียยงในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว ประมาณ 75% ของผู้ที่แพ้พืชฤดูใบไม้ผลิยังมีปฏิกิริยาต่อ Ragweed และละอองเกสรผงละเอียดของมัน Ragweed ไม่เติบโตในสวนบ้านคุณเหมือนละอองเสกรเกสรดอกไม้อื่น แต่ละอองเกสรดอกไม้ Ragweed สามารถเดินทางไปพร้อมกับลมได้ไกลหลายร้อยไมล์

• ตรวจสอบจำนวนนับละอองเกสรในท้องถิ่นของคุณ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและเว็บไซต์ข่าวจากโทรทัศน์มักจะเผยแพร่รายงานประจําวัน อยู่ในอาคารให้มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน (โดยปกติจะอยู่ช่วงสายๆ ในตอนเช้าถึงช่วงบ่าย) และปิดประตูและหน้าต่างของคุณ
• เมื่อคุณออกไปข้างนอก ให้สวมหน้ากากเพื่อกรองละอองเกสร
• เมื่อขับรถให้ปิดหน้าต่างให้สนิท และเมื่อคุณกลับบ้านให้ถอดรองเท้าและแจ็คเก็ตของคุณก่อนที่จะเข้าไปข้างใน คุณต้องไม่นําละอองเกสรใดที่ติดตัวคุณมาจากนอกบ้านเข้าบ้านของคุณ
• ดูดฝุ่นพรมและเบาะเป็นประจํา และซักเสื้อผ้า ผ้าลินิน และผ้าม่านเป็นประจํา หลังจากที่คุณซักเสื้อผ้าแล้ว ให้หลีกเลี่ยงการตากแห้งนอกบ้าน
• คุณมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่ สัตว์เลี้ยงของคุณอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ แต่คุณควรอาบน้ำให้บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุนัขและแมวที่ใช้เวลากลางแจ้ง

เชื้อรา เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการภูมิแพ้ในอาคารและกลางแจ้ง เชื้อราเป็นเห็ดราที่มักจะเติบโตในพื้นที่ชื้นในบ้าน เช่น ชั้นใต้ดินหรือห้องน้ํา แต่สวนของคุณก็ยังเป็นสถานที่ที่ดีสําหรับสปอร์เชื้อราที่เจริญเติบโตในใบไม้ชื้นและปุ๋ยหมัก

• ใช้เครื่องลดความชื้นในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นใต้ดิน อากาศควรมีความชื้นอยู่ระหว่าง 35 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
• ทำความสะอาดห้องน้ำสะอาดและห้องครัวเป็นประจํา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการใช้สารละลายที่ไม่ใช่สารเคมี เช่น น้ำส้มสายชู
• ให้ใช้คราดกวาดลานใบไม้ที่ร่วงลงมาและกวาดใบออกจากรางน้ำ เก็บกองปุ๋ยหมักและขยะให้ห่างจากบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และสวมหน้ากากป้องกันเมื่อใช้คราดกวาดใบไม้และทําความสะอาดถังปุ๋ยหมัก

ไรฝุ่น อีกสาเหตุหนึ่งของการแพ้ในภายในอาคาร คือสัตว์จำพวกแมลงชนิดหนึ่งที่หาอาหารกินบนเกล็ดของผิวหนังมนุษย์ที่หลุดลอกกระจายไปทั่วบ้านเป็นหลัก และไรฝุ่นเป็นตัวกระตุ้นโรคภูมิแพ้ได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าไรฝุ่นอาจพบได้บ่อยขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อากาศชื้น แต่ก็มักฟุ้งขึ้นไปในอากาศเมื่อคุณเริ่มทําความร้อนในอาคารในช่วงฤดูใบไม้ร่วง วิธีเยียวยาแบบธรรมชาติที่ดีที่สุดอยู่ที่การป้องกันการสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ดังนั้นในการลดอาการภูมิแพ้จากไรฝุ่น:

• ก่อนที่คุณจะเปิดเครื่องทําความร้อนส่วนกลางเป็นครั้งแรกหลังจากฤดูร้อน ให้ทําความสะอาดช่องระบายอากาศทั่วบ้านเสียก่อน สารก่อภูมิแพ้ที่ติดอยู่ในช่องระบายอากาศจะปลิวเข้าไปในอากาศทันทีที่คุณเปิดเตาทำความร้อน
• ไรฝุ่นชอบห้องนอนที่สุด คลุมที่นอนและหมอนของคุณในผ้าคลุมกันฝุ่น และซักผ้าเครื่องนอนทั้งหมดในน้ำร้อนเป็นประจํา
• ปัดฝุ่นและดูดฝุ่นในบ้านเป็นประจํา อย่าลืมสวมหน้ากากกรองฝุ่นขณะทําความสะอาด
• ลองเปลี่ยนพรมคลุมเต็มพื้นที่ด้วยพื้นไม้เนื้อแข็ง

คุณมีสุนัข แมว หรือ โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆหรือไม่ คุณรู้หรือไม่ว่าโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากขนสัตว์เลี้ยง แต่โดยสิ่งที่แมว สุนัข หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ของคุณผลิตขึ้นมา สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่เกิดจากเศษผิวหนังขนาดเล็กที่หลุดมาจากแมว สุนัข หนู นก และสัตว์อื่นๆ ที่มีขนหนาหรือขนนก สิ่งกระตุ้นโรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงหรือสารก่อภูมิแพ้ยังมาจากโปรตีนที่พบในน้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระของสัตว์เลี้ยงอีกด้วย แน่นอนว่าวิธีที่ชัดเจนในการปกป้องคุณภาพอากาศภายในอาคารของคุณคือการไม่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่หากการไม่มีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่ทางเลือกของคุณแล้วล่ะก็ คำแนะนำมีดังต่อไปนี้

• อย่าให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในห้องนอนของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
• อย่าให้สัตว์เลี้ยงเข้าใกล้เฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบาะ
• ให้สัตว์เลี้ยงอยู่ห่างจากบริเวณที่ปูพรม
• ดูดฝุ่นสูญญากาศพรมและเฟอร์นิเจอร์เพื่อลดปริมาณสะเก็ดผิวหนัง

โชคดีที่เครื่องฟอกอากาศช่วยลดอาการภูมิแพ้ ดังนั้นลองนึกถึงการวางเครื่องฟอกอากาศในพื้นที่สําคัญของบ้าน โดยเฉพาะห้องนอนของคุณ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จํานวนมากมีอาการกำเริบในช่วงกลางดึก เนื่องจากระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ผ่อนคลายในระหว่างการนอนหลับ ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถจัดการได้ในระหว่างวันกลับมีความท้าทายมากขึ้นในเวลากลางคืน และถ้าคุณให้เครื่องฟอกอากาศทํางานในห้องนอนตลอด 24 ชั่วโมงโดยประตูปิดห้องนอน ห้องนอนจะมีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในบ้าน ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ในเวลากลางวันได้เช่นกัน

เครื่องฟอกอากาศ Blueair เป็นไปตามมาตรฐาน HEPA ของสหรัฐอเมริกาและยุโรปด้านการฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศ Blueair พร้อม เทคโนโลยีHEPASilent™ อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงและประสิทธิผลสูง โดยการผสานรวมเทคโนโลยีการกรองไฟฟ้าสถิตและเชิงกล การผสานรวมนี้ที่บุกเบิกโดย Blueair เทคโนโลยี HEPASilent™ ที่ให้อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) สูง ด้วยการทํางานที่เงียบดุจเสียงกระซิบและประสิทธิภาพสูงในการใช้พลังงาน ในความเป็นจริง เครื่องฟอกอากาศ Blueair ทํางานเงียบมาก เพื่อที่คุณจะไม่เพียง แต่นอนอยู่ใกล้เครื่องได้ จนกระทั่งคุณอาจต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าเครื่องเปิด เครื่องฟอกอากาศ Blueair ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดไฟขนาดเล็ก ในขณะที่ยังคงบรรลุประสิทธิภาพการกรอง 99.7% ของอนุภาคในอากาศที่มีขนาดเล็กลงไปถึง 0.1 ไมครอน

เครื่องฟอกอากาศอื่นไม่สามารถมอบประสิทธิภาพการทำงานสูงได้ที่สูงมากเท่านี้ได้ ในหลายๆ ตัวแปร ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน